news

ป้าปาดน้ำตา เตรียมขายตึกใช้หนี้ ส่งดอกลอยเป็นปี เงินต้น 1 หมื่นไม่ลด เข้าโครงการแก้หนี้ก็เงียบ

2 มี.ค. 2567

19:08 น.
ป้าปาดน้ำตา เตรียมขายตึกใช้หนี้ ส่งดอกลอยเป็นปี เงินต้น 1 หมื่นไม่ลด เข้าโครงการแก้หนี้ก็เงียบ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากกลุ่มเงินกู้นอกระบบ ที่นำนามบัตรเงินกู้ไปตระเวนโปรยตามหน้าบ้าน ร้านค้าต่างๆ บนถนนบางกรวย-ไทรน้อย โดยหมุนเวียนสับเปลี่ยนไม่ซ้ำเจ้ากัน จนเป็นที่น่ารำคาญของชาวบ้านที่ต้องคอยมาปัดกวาดเก็บทิ้งในแต่ละวัน

ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานงานกับ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับเก็บนามบัตรเงินกู้นอกระบบจำนวนหนึ่ง ที่ตกอยู่กับพื้นไว้เป็นหลักฐาน โดยพบว่าเป็นนามบัตรบริการให้กู้ยืมเงินจากนายทุน 3 – 4 เจ้า

ขณะเดียวกันในระหว่างลงพื้นที่ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางยา (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 66 ปี แม่ค้าขายข้าวขาหมู เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนใหญ่คนที่มาโปรยนามบัตรเงินกู้ เมื่อขี่รถผ่านก็โยนนามบัตรไปตามหน้าบ้านคน พวกนี้จะมากันในตอนเช้ามืดหรือช่วงกลางดึก เพราะตื่นมาตนก็เจอนามบัตรเหล่านี้เต็มหน้าบ้านไปหมด ก็ได้แต่กวาดทิ้งไปในแต่ละวัน วันๆ หนึ่งก็ผ่านมาโปรยกันหลายเจ้า แบ่งกันเป็นทีมเป็นรอบๆไป

นางยา เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ที่ผ่านมาตนได้ไปกู้เงินนอกระบบมาใช้ 1 หมื่นบาท ตั้งแต่เดือน เม.ย.66 เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่ตนต้องดูแล พี่สาวตนอายุ 72 ปี ที่ป่วยเป็นโรคไต และสามีอายุ 68 ปี ที่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบ โดยตนต้องส่งดอกเบี้ยลอยให้กับเงินกู้เป็นเงินวันละ 200 บาท จนปัจจุบันตนแทบจะส่งดอกเบี้ยไม่ไหวแล้ว ทั้งอายุที่มากขึ้นทุกวัน ประกอบกับค้าขายก็ไม่ดี จึงได้คุยกับเจ้าหนี้ขอลดดอกเบี้ยลงมาเหลือวันละ 100 บาท ซึ่งส่งมาถึงจนทุกวันนี้แต่เงินต้น 1 หมื่นบาทที่กู้มายังไม่ลดลงแม้แต่บาทเดียว

นางยา เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาตนได้ไปลงทะเบียนกับทางอำเภอบางกรวยในโครงการตลาดนัดแก้หนี้นอกระบบมาแล้วตั้งแต่เริ่มเปิดโครงการ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากทางอำเภอ ทำให้ทุกวันนี้ตนยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยลอยให้กับนายทุนที่กู้ยืมมา ทั้งๆ ที่ถ้าคิดตามความเป็นจริงแล้ว หนี้ก้อนนี้ของตนน่าจะหมดไปนานแล้ว

ซึ่งเจ้าหนี้ก็ยืนยันว่าต้องการเงินต้นคืน 1 หมื่นบาท โดยไม่รวมกับดอกเบี้ยที่ส่งรายวัน จนทำให้ตนต้องตัดสินใจไปขอกู้ธนาคารเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อจะมาปิดยอดเงินกู้นายทุนรายนี้ แต่ธนาคารไม่อนุมัติ สุดท้ายตนจึงตัดสินใจประกาศขายตึกที่ตนพักอาศัยอยู่ แม้จะติดจำนองกับทางธนาคารอยู่ก็ตาม เพื่อให้มีเงินเหลือไปใช้หนี้ จากนั้นตนกับครอบครัวก็จะย้ายไปอยู่กับญาติแทน สำหรับตนมองว่าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลไม่ได้ผล เพราะลูกหนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการแก้ไขจากต้นทาง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมบัตรทั้งหมดไปตรวจสอบ ส่วนกรณีของ นางยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานกับทางอำเภอบางกรวยเพื่อหาทางช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ยหนี้สินที่กู้ยืมมาจากนายทุนต่อไป เนื่องจากเป็นการปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

LEAVE A RESPONSE

Your email address will not be published. Required fields are marked *